รถยนต์ขาดตลาด-การปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย ทำยอดขายปลีกในสหรัฐฯ ลดลงเดือนก.ค.


กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายปลีกสินค้าในสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ สืบเนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่ไม่เพียงพอความต้องการของผู้ซื้อ และการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลง

ยอดขายปลีกของสหรัฐฯลดลง 1.1% ในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเดือนมิถุนายนหลังจากที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับเงินช่วยเหลือรอบที่สามจากรัฐบาลอเมริกัน โดยยอดขายรถยนต์ตกลง 3.9% เนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่ไม่เพียงพอเพราะปัญหาชิพคอมพิวเตอร์ขาดตลาด

ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงแรกของไตรมาสที่สาม อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณการใช้จ่ายของคนอเมริกันจะเพิ่มขึ้นในปลายเดือนสิงหาคมเมื่อโรงเรียนในรัฐต่าง ๆ กลับมาเปิดภาคเรียนอีกครั้ง แม้จะยังมีความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ส่วนหนึ่งของยอดขายที่ลดลงในเดือน ก.ค. เป็นเพราะผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมจากการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคไปเป็นการซื้อบริการ เช่น การท่องเที่ยว และความบันเทิงมากขึ้น ในช่วงที่เริ่มมีการเปิดภาคธุรกิจใหม่ ๆ ในขณะที่ยอดขายตามร้านอาหารและบาร์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น 38.4% จากปีที่แล้ว

รายงานระบุว่า พื้นฐานการใช้จ่ายของคนอเมริกันในปีนี้ยังคงแข็งแรง การจ้างงานเพิ่มขึ้นพร้อมกับอัตราเงินเดือนที่สูงขึ้น ในขณะที่เงินออมของภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นกัน

(ที่มา: รอยเตอร์)



ลิงค์ที่มา