นายหวัง อี้ (Wang Yi) มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กำลังเข้าร่วมการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations General Assembly) สมัยที่ 77 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน ในช่วงเดียวกับการอภิปรายทั่วไป นายหวังเป็นเจ้าภาพการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่จากประเทศอื่น ๆ อีกหลายท่าน และผู้นำของสหประชาชาติ เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขากับประเทศจีน และปัญหาต่าง ๆ ที่โลกกำลังเผชิญ
ในตอนที่สองของซีรีส์ 10 ตอน ของรายการ “ถอดรหัสเส้นทางของจีนผ่านมุมมองเชิงลึก” (The China Path: A Panoramic Decoding) ที่ออกอากาศโดย CGTN บทความเรื่อง “การทูตของประเทศรายใหญ่เอื้อประโยชน์ต่อทั่วโลกในวงกว้าง” แสดงให้เห็นว่าประเทศจีนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาระดับโลกได้อย่างไร บทความให้เหตุผลว่าระบบพหุภาคีช่วยบรรเทาผลกระทบของปัญหายุ่งยากได้ ดังนั้นจึงเป็นสื่อกลางที่สำคัญสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่มีความร่วมมือแบบสานประโยชน์กัน
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ เคยกล่าวไว้ว่า “จีนได้กลายเป็นเสาหลักที่สำคัญที่สุดของระบบพหุภาคี โดยเป็นกำลังสำคัญที่ขาดไม่ได้และน่าเชื่อถือเพื่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก” นับตั้งแต่การประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ครั้งที่ 18 ประเทศจีนได้จัดงานทางการทูตอย่างต่อเนื่อง และจีนได้เปิดรับโลกภายนอกอย่างเปิดกว้างแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนผ่านโครงการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโครงการเส้นทางสายไหม BRI
ในปี 2564 การค้าข้ามพรมแดนของจีนกับประเทศในกลุ่มสมาชิก BRI มีการเติบโตที่ 23.6% สูงกว่าอัตราการเติบโตโดยรวมของการค้าต่างประเทศของจีนในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ 2.2% การส่งออกระหว่างจีนและสมาชิก BRI เพิ่มขึ้นแตะระดับประมาณ 6.59 ล้านล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 21.5% ในขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 26.4% เป็น 5.01 ล้านล้านหยวน ประเทศจีนได้ลงนามในเอกสารมากกว่า 200 ฉบับเกี่ยวกับความร่วมมือในโครงการ BRI กับ 149 ประเทศ และ 32 องค์กรระหว่างประเทศ
ในขณะที่มนุษยชาติกำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องการควบคุม ความไว้วางใจ การพัฒนา และสันติภาพ โลกทุกวันนี้กำลังรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนในรอบกว่าศตวรรษ ประชาคมระหว่างประเทศหวังพึ่งประเทศจีนเพื่อสินค้าสาธารณะทั่วโลกที่มากขึ้นและดีขึ้น ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้เสนอโครงการริเริ่มเพื่อการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative) เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน และตระหนักถึงการพัฒนามนุษย์รอบด้าน
การพัฒนาควรจะยั่งยืนและแบ่งปันถึงทุกคน โดยจีนสานต่อข้อผูกพันตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ฟื้นฟูความเป็นหุ้นส่วนระดับโลก และเริ่มความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างประเทศอีกครั้ง และได้จัดทำแผนงานสำหรับการจำกัดช่องว่างเหนือ-ใต้ และจัดการกับความไม่สมดุลของการพัฒนาเพื่อบรรลุวาระปี 2573 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
https://news.cgtn.com/news/2022-09-21/Major-country-diplomacy-benefits-the-world-at-large-1dv0qVs6kjC/index.html
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1905127/Major_country_diplomacy_benefits_world_at_large.jpg
คำบรรยายภาพ – การทูตของประเทศรายใหญ่เอื้อประโยชน์ต่อทั่วโลก