ขณะนี้สายการบินต่าง ๆ พากันกลับมาเปิดเลานจ์ หรือห้องพักรับรองตามสนามบิน โดยเสนอบริการหรูหราเพื่อเอาใจลูกค้ากระเป๋าหนักให้กลับมาใช้สายการบินเหล่านั้น หลังจากที่รัฐบาลหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จำนวนผู้โดยสารระดับ “พรีเมียม” ของสายการบินต่าง ๆ ลดลงไปมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังสหรัฐฯ
แต่คาดว่าหลังวันที่ 8 พฤศจิกายน บรรดานักเดินทางกระเป๋าหนักเหล่านั้นจะเริ่มกลับเข้ามาในสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลอเมริกันประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสแล้วสามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้โดยไม่ต้องผ่านการกักตัว
และ “เลานจ์” ตามสนามบินก็ถือเป็นอาวุธสำคัญที่สายการบินต่าง ๆ สามารถนำมาใช้เรียกลูกค้าระดับพรีเมียมเหล่านั้นให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง
ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เพิ่งเปิดเลานจ์ที่มีชื่อว่า “โพลาริส” ที่สนามบินวอชิงตันดัลเลส เมื่อเดือนที่ผ่านมา พร้อมประกาศแผนเปิดเลานจ์ปรับปรุงใหม่ที่สนามบินในนิวยอร์ก ชิคาโก และฮูสตัน ภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งอีกหลายแห่งในปีหน้า
ส่วน แอร์ ฟรานซ์ ก็เพิ่งทำพิธีเปิดที่พักรับรองขนาด 3,000 ตารางเมตรในอาคารผู้โดยสารหลักของสนามบินชาร์ล เดอ โกล ในกรุงปารีส ขณะที่สายการบินเอมิเรตส์ และแอร์ แคนาดา ต่างมีแผนปรับปรุงเลานจ์ของตนเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า จากนี้ต่อไป ที่พักรับรองตามสนามบินต่าง ๆ จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นไม่ต่างจาก “โอเอซิสกลางทะเลทราย” สำหรับนักเดินทางที่นิยมความหรูหราและต้องการหลีกเลี่ยงการปะปนผู้คนจำนวนมาก
รวมทั้งการให้บริการพิเศษแก่ผู้โดยสารที่ต้องการเลี่ยงการเข้าคิวยาวเพื่อรอตรวจสัมภาระและบัตรรับรองการฉีดวัคซีน ก็จะถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของสายการบินต่าง ๆ ในอนาคตเช่นกัน
- ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์