DEAC จับมือ Neste พัฒนาโซลูชันจัดเก็บข้อมูลที่มีความยั่งยืน


DEAC และ Neste ผนึกกำลังร่วมมือพัฒนาโซลูชันจัดเก็บข้อมูลที่มีความยั่งยืน DEAC เป็นศูนย์ข้อมูลอิสระที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ในยุโรปตอนเหนือ ซึ่งได้เข้าซื้อพลังงานหมุนเวียนมาตั้งแต่ปี 2564 โดยความร่วมมือกับ Neste ซึ่งเป็นผู้ผลิตชั้นแนวหน้าของโลกในด้านดีเซลและเชื้อเพลิงอากาศยานที่มีความยั่งยืน และโซลูชันวัตถุดิบตั้งต้นหมุนเวียนสำหรับอุตสาหกรรมโพลิเมอร์และเคมีนั้น จะเปิดโอกาสให้ DEAC บรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ได้อย่างเร็วที่สุดในปี 2565 ซึ่ง DEAC จะใช้ Neste MY Renewable Diesel(TM) เพื่อยกระดับความยั่งยืนในการจัดเก็บข้อมูลในกรณีที่ไฟฟ้าดับ

ผลการศึกษาเมื่อปี 2563 ในวารสาร AAAS Science Journal พบว่า ศูนย์ข้อมูลใช้ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1% ของทั้งโลก ขณะที่บทวิเคราะห์บางฉบับบ่งชี้ว่า ปริมาณการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึงสามหรือสี่เท่าตัวภายในทศวรรษหน้า

Andris Gailitis ซีอีโอของ DEAC กล่าวว่า “ในปี 2564 DEAC ได้เปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนแล้ว 100% โดยเป็นพลังงานจากทุ่งกังหันลมเพื่อใช้ดูแลการจัดเก็บข้อมูลในแต่ละวัน นอกจากนี้ เรายังได้อัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานเพื่อลดการใช้พลังงานและปรับปรุงระบบระบายความร้อน ความร่วมมือของเรากับ Neste และการจัดหา Neste MY Renewable Diesel ทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซลของเราคุ้มครองข้อมูลในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างยั่งยืน เช่น ในกรณีไฟฟ้าดับ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความยินดีในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนได้ 100% ตามเป้า”

Heidi Peltonen ซึ่งรับผิดชอบเรื่องความร่วมมือเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนประจำฝ่ายการตลาดและบริการของ Neste กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ซึ่งเปรียบได้กับกระดูกสันหลังของโลกดิจิทัล เดินตามอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการใช้ทรัพยากรอย่างเข้มข้นในการเฟ้นหาโซลูชันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนกว่าเดิม ความร่วมมือกับ DEAC นับเป็นความร่วมมือแรกของ Neste ในการให้บริการโซลูชัน Neste MY Renewable Diesel กับศูนย์ข้อมูล ซึ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 90%* เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิลดีเซล”

DEAC เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลอิสระที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ในยุโรปตอนเหนือ ซึ่งมีกองทุนโครงสร้างพื้นฐานการลงทุนจากสวิตเซอร์แลนด์ที่บริหารจัดการโดย Quaero Capital เป็นเจ้าของ DEAC มีฐานการดำเนินงานตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ในยุโรปตอนกลางและยุโรปตะวันออก โดยให้บริการลูกค้าหลายพันรายในกว่า 40 ประเทศ ด้วยการให้บริการไอทีล้ำสมัย พร้อมนำแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่ตอบโจทย์เฉพาะและเทคโนโลยีล้ำหน้ามาใช้

*) ระเบียบวิธีในการคำนวณการปล่อยมลภาวะตลอดวัฏจักรชีวิตและการลดการปล่อยมลภาวะเป็นไปตามกฎระเบียบพลังงานทดแทนของสหภาพยุโรป (2018/2001/EU)



ลิงค์ที่มา