ปธน.ไบเดน ออกคำสั่งให้ เจอโรม พาวเวลล์ ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่ออีกสมัย


ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ออกคำสั่งแต่ตั้ง เจอโรม พาวเวลล์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อเป็นสมัยที่ 2 หลังแสดงผลงานและมีบทบาทสำคัญในการช่วยเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากแรงกดดันหนักของการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสมาได้

คำสั่งของปธน.ไบเดน ที่มีออกมาในวันจันทร์ ซึ่งมีผลให้ พาวเวลล์ ในวัย 68 ปี ดำรงตำแหน่งที่มีความสำคัญที่สุดตำแหน่งหนึ่งในการดูแลนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังตลาดการเงินและแวดวงการเมืองในกรุงวอชิงตันเฝ้ารอและพยายามคาดเดามาหลายสัปดาห์

ก่อนหน้านี้ สมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครตที่เป็นฝ่ายหัวก้าวหน้าพยายามเสนอให้ปธน.ไบเดน เลือก เลเอล เบรนนาร์ด ผู้ว่าการเฟด ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานแทน แต่ผู้นำสหรัฐฯ ตัดสินใจแต่งตั้ง เบรนนาร์ด ให้ขึ้นเป็นรองประธานเฟดแทน

การแต่งตั้ง พาวเวลล์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันที่เคยเป็นผู้บริหารกองทุนส่วนบุคคล (private equity fund) ขึ้นคุมบังเหียนระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ อีก 4 ปีนั้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในแวดวงการเมืองสหรัฐฯ ที่ผู้นำรัฐบาลชุดปัจจุบันจะตัดสินใจให้ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลชุดก่อนอยู่ในตำแหน่งต่อ

ในส่วนของแวดวงการเมืองในกรุงวอชิงตันที่ยังคงมีความแตกแยกเป็นกลุ่มก้อนอยู่นั้น พาวเวลล์ ถือเป็นผู้ที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองอย่างมาก โดยมีการคาดการณ์ว่า การแต่งตั้งขึ้นรับตำแหน่งประธานเฟดครั้งนี้น่าจะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ในขั้นตอนสุดท้ายอย่างไม่ยาก

แจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอดีตประธานเฟด กล่าวสรรเสริญการตัดสินใจแต่งตั้ง พาวเวลล์ ให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย ว่า ความเป็นผู้นำของพาวเวลล์มีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากวิกฤตสาธารณสุขและเศรษฐกิจที่รุนแรงระดับที่เกิดขึ้นได้หนึ่งครั้งในช่วงชีวิตเดียว พร้อมระบุว่า ตนยินดีที่เศรษฐกิจของประเทศจะเดินหน้าได้แรงหนุนจากความเป็นผู้นำ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของ เลเอล เบรนนาร์ด รองประธานเฟดคนใหม่ด้วย

ทั้งนี้ ตลาดการเงินตอบรับข่าวดังกล่าวด้วยความยินดี ดังพิสูจน์ด้วยการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นหลักๆ ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น



ลิงค์ที่มา