นิโตริ กรุ๊ป เร่งเปิดสาขาใหม่ ๆ ในเอเชีย เตรียมเปิดสาขาแรกในไทยสิงหาคม 2566
บริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด (Nitori Holdings Co., Ltd.) ในเมืองซัปโปโรทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ประกาศเปิดร้านนิโตริสาขาแรกในไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งเปิดสาขาใหม่ ๆ ในตลาดเอเชียให้มากขึ้น โดยร้านค้าสาขาแรกในไทยจะเปิดในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2566 ที่แลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างเซ็นทรัลเวิลด์
รูปภาพ: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106920/202307267526/_prw_PI1fl_T7eQNwOb.jpg
นิโตริคือเครือข่ายร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่จะเปิดร้าน 3,000 สาขา และบรรลุยอดขาย 3 ล้านล้านเยนภายในปี 2575 ตามพันธกิจ “เพื่อเพิ่มคุณค่าบ้านของผู้คนทั่วโลก” โดยธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือร้าน “นิโตริ” ซึ่งจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน นอกจากนี้ยังมีร้าน “เดโค โฮม” (Deco Home) ซึ่งขายสินค้าตกแต่งบ้านที่เน้นของใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งร้านขายสินค้าปรับปรุงบ้านอย่าง “ชิมาจู” (Shimachu) ที่ขายสินค้าฮาร์ดแวร์ สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน และเฟอร์นิเจอร์ และร้าน “เอ็น พลัส” (N Plus) ซึ่งขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิง โดยนิโตริมีร้านค้า 793 สาขาในญี่ปุ่น และมี 137 สาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน มาเลเซีย และสิงคโปร์ เท่ากับว่ามีร้านค้าที่เปิดดำเนินการทั่วโลกถึง 930 สาขา
นิโตริ กรุ๊ป ได้สร้างโมเดลธุรกิจที่ครอบคลุมทุกอย่าง ตั้งแต่การวางแผนผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการผลิต การกระจายสินค้า และการขาย เพื่อมอบสินค้าหลากหลายที่ “นำเสนอสิ่งที่คาดไม่ถึง” มีคุณภาพดีเยี่ยม และราคาถูก ในกระบวนการนี้ นิโตริได้สร้างเครือข่ายในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งประกอบด้วยบริษัทคู่ค้าหลายแห่ง รวมถึงโรงงานและบริษัทการค้าของนิโตริเอง นิโตริได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจจำนวนมาก ในการมุ่งมั่นที่จะนำเสนอการสร้างพื้นที่ใช้สอยที่สนุกสนาน มั่งคั่ง และประสานร่วมกันอย่างสมบูรณ์ให้กับผู้คนทั่วโลก
ตลาดเอเชียซึ่งคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญนั้น มีความสำคัญต่อการบรรลุพันธกิจและวิสัยทัศน์ของนิโตริ ดังนั้นนิโตริจึงเน้นจุดยืนในการขยายเครือข่ายร้านค้า โดยเร่งการเปิดร้านค้าในที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ซึ่งมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับนิโตริ กรุ๊ป แม้เพิ่งจะเริ่มธุรกิจสำหรับผู้บริโภคชาวไทยด้วยการเปิดร้านค้าสาขาแรก แต่บริษัทฯ ได้ก่อตั้งบริษัทการค้าขึ้นตั้งแต่ปี 2542 แล้ว ซึ่งรับผิดชอบการจัดการห่วงโซ่อุปทานของนิโตริ กรุ๊ป ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิโตริยังมีโรงงานสยาม นิโตริ (SIAM NITORI) ที่ผลิตพรมปูพื้นและพรมผืนเล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยรูปแบบธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้วัสดุส่วนใหญ่มาจากขวดพลาสติกรีไซเคิล และผลิตกระบวนการทั้งหมดภายในโรงงานของบริษัท นอกจากนี้แล้ว นิโตริ กรุ๊ป ยังมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งและกว้างขวางกับซัพพลายเออร์จำนวนมาก ที่รับผิดชอบด้านการผลิตสินค้าให้กับนิโตริ กรุ๊ป มาเป็นเวลานานหลายปี และในการสร้างเครือข่ายร้านค้าในประเทศไทยนั้น นิโตริวางแผนจะเปิดร้านค้า 25 สาขา ในอีก 5 ปี ข้างหน้า
ในปี 2565 นิโตริได้เปิดร้านค้าไป 37 สาขาใน 4 ประเทศและดินแดนในเอเชีย รวมถึงสาขาแรกในมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้ว นิโตริยังมีแผนที่จะเปิดร้านสาขาแรกในเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้ โดยภายในปลายเดือนมีนาคม 2567 นั้น นิโตริมีแผนจะเปิดร้านค้าใหม่ 78 สาขา ในทั้งและประเทศและภูมิภาคที่มีร้านค้าอยู่แล้ว และภูมิภาคกับประเทศใหม่ ๆ ซึ่งจะทำให้จำนวนร้านค้าทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียเพิ่มเป็น 206 แห่ง นอกจากนี้แล้ว ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป นิโตริวางแผนที่จะเปิดร้านค้าในต่างประเทศเฉลี่ยปีละ 300 แห่ง เพื่อบรรลุพันธกิจและวิสัยทัศน์ของนิโตริ
ร้านนิโตริสาขาแรกในประเทศไทย
– วันที่เปิดให้บริการ: สิ้นเดือนสิงหาคม 2566
– สถานที่: เซ็นทรัลเวิลด์
– ที่ตั้ง: ยูนิต B539, 4, 4/1-4/2, 4/4 ถ.ราชดำริ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 (โซน I ชั้น 5 เซ็นทรัลเวิลด์)
*จะเผยรายละเอียดให้ทราบภายหลัง
ข้อความจากอากิโอะ นิโตริ (Akio Nitori) กรรมการผู้แทนและประธานกรรมการ (ซีอีโอ) บริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด:
“เราได้ปรับปรุงโมเดลธุรกิจการผลิต-โลจิสติกส์-ไอที-ค้าปลีกของเรา เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ ‘นำเสนอสิ่งที่คาดไม่ถึง’ จากมุมมองของลูกค้า ขณะที่เราพยายามบรรลุพันธกิจของกลุ่มบริษัท ‘เพื่อเพิ่มคุณค่าบ้านของผู้คนทั่วโลก’ ขณะนี้เรากำลังขยายความท้าทายดังกล่าวโดยมุ่งเน้นไปที่เอเชีย เรารู้สึกยินดีอย่างมากที่นำผลิตภัณฑ์นิโตริไปเปิดตัวในประเทศ ภูมิภาค และลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ผ่านการเร่งเปิดสาขาของเราในภูมิภาคเอเชีย”
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thaipr.net/general/3368550]https://www.thaipr.net/general/3368550[/url]