กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องบริษัท Penguin Random House ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในข้อหาทำการผูกขาดตลาด หลังเดินหน้าเข้าซื้อกิจการ Simon & Schuster สำนักพิมพ์คู่แข่งซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ
รายงานข่าวเปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมได้ยื่นเรื่องฟ้อง Penguin Random House เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ต่อศาลรัฐบาลกลาง โดยระบุว่า การที่สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่แห่งนี้เข้าซื้อกิจการคู่แข่งจะกระทบกระบวนการแข่งขันในการแย่งซื้อต้นฉบับจากนักเขียนต่างๆ เพราะการที่มีสำนักพิมพ์ในอุตสาหกรรมน้อยลงนั้นหมายถึง การที่เจ้าของชิ้นงานประพันธ์ทั้งหลายมีตัวเลือกในการขายน้อยลง ขณะที่ ขนาดธุรกิจของ Penguin Random House ที่ใหญ่ขึ้นจะทำให้บริษัทแห่งนี้มีอำนาจบีบข้อเสนอซื้อผลงานในราคาที่ถูกลงได้
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า การเข้าซื้อกิจการ Simon & Schuster ที่กำลังดำเนินอยู่นี้มีมูลค่าการลงทุนที่เกือบ 2,200 ล้านดอลลาร์
วงการหนังสือโลกในปัจจุบันนั้น หลักๆ แล้ว มีสำนักพิมพ์ชั้นนำอยู่ 5 แห่ง ที่รู้จักกันในชื่อ “Big Five” เป็นผู้นำธุรกิจอยู่ และต่างฝ่ายต่างงัดข้อเสนอและแผนการตลาดน่าสนใจต่างๆ ออกมาเพื่อซื้อต้นฉบับจากนักเขียนทั้งหลายเพื่อชิงความเป็นเจ้าธุรกิจอยู่เป็นประจำ
ขณะที่ เมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า การควบรวมกิจการที่ว่านี้จะส่งผลเสียต่อทั้งนักประพันธ์และผู้บริโภคชาวอเมริกันอย่างมาก โจนาธาน คาร์ป ประธานและซีอีโอ ของ Simon & Schuster กลับแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย และระบุในหนังสือเวียนภายในองค์กรว่า ทั้ง Simon & Schuster และ Penguin Random House ไม่เห็นว่า คำฟ้องคดีของกระทรวงยุติธรรมนี้มีมูลแต่อย่างใด และทั้งสองบริษัทจะเดินหน้าสู้คดีต่อไปด้วย
หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่า Penguin Random House ได้จ้าง แดเนียล เพโตรเชลลี ทนายชื่อดังที่ช่วยบริษัท AT&T และบริษัท Time Warner สู้คดีต่อต้านการผูกขาดการตลาดที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องจนชนะ มาช่วยรับมือกับคดีความของตน
สำนักข่าว วีโอเอ ได้ติดต่อขอความเห็นในเรื่องนี้จาก Penguin Random House ไป แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด